fbpx

ศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เติมทักษะสร้างอาชีพมอบสุขสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม

‘ศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง’ จ.กาญจนบุรี
เติมทักษะสร้างอาชีพมอบสุขสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม

สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลความรุนแรงในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก หรือรายใหญ่ ต่างได้ผลกระทบกันถ้วนหน้า บางรายต้องต่อสู้ เพื่อประคับประคองรักษาการจ้างงาน หรือบางรายต้องยอมปิดตัวลง เพื่อตั้งหลักรอวันกลับมาใหม่อีกครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไม่แน่นอนจากผลกระทบภายนอกที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากทุกคนมีทักษะติดตัว หรือมีอาชีพเสริม ก็ถือเป็นเกราะกำบังให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี

“ส่งคืนรายได้สู่ชุมชน นำงบส่วนโฆษณาประชาสัมพันธ์ 70%มาสร้างอาชีพช่วยชาวบ้าน”  นี่เป็นจุดยืนของ“อรประภา พรมรังฤทธิ์”เจ้าของกิจการ บริษัท เซนต์บิวตี้ คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไบโอเวย์ เนเจอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพร แบรนด์ “เซนต์” และ “ชีววิถี” ในการตั้ง“ศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง” หรือ “ชุมชนกลุ่มสตรีและแกนนำ      อำเถอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี” ณ ต.ม่วงชุม  อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

อรประภา เล่าว่า สร้างธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรมานานกว่า 15 ปี เบื้องต้นจากโอทอป พัฒนาและยกระดับกลายเป็นโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP และได้รับมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 ที่ขยายตลาดสู่ต่างประเทศ   เมื่อธุรกิจส่วนตัวประสบความสำเร็จแล้ว ต้องการส่งมอบสิ่งที่ดีสู่ชุมชน จึงสร้างศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ขึ้นมา

“นโยบายขับเคลื่อนศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วงต้องการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้ชุมชน โดยใช้ศักยภาพจากสมุนไพรไทย มาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเริ่มตั้งศูนย์เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากเกิดจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยิ่งมุ่งมั่นสร้างประโยชน์จากศูนย์ฯ แห่งนี้  ตัดสินใจดึงงบโฆษณาลง 70% เพื่อนำมาจัดอบรมให้กับชาวบ้านในชุมชน หรือประชาชนทั่วไปที่สนใจเสริมทักษะ สร้างฝึกอาชีพเข้ามาเรียนรู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  เช่น การทำกาแฟ ขนมไทย ผ้ามัดย้อม ห่อลูกประคบ ทำจักรสาน สบู่-แชมพูสมุนไพร และยาหม่อง ฯลฯ  จากผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากร”

สำหรับรูปแบบการสอน  เน้นลงมือทำเรียนรู้แบบจัดเต็ม ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติผู้ที่เข้ามาภายในศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง จะได้รับการอบรม 1-2 วัน ทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพื่อให้เกิดการฝึกฝนจนความชำนาญ นำไปต่อยอดสร้างอาชีพให้กับตัวเอง นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมเสริมอีก 3 ฐาน เช่น ฝึกทำลูกประคบ, จักสาน และมัดย้อม เป็นต้น โดยผู้ที่เข้ามาอบรมส่วนใหญ่ มาจากการบอกต่อและตั้งกรุ๊ปไลน์ของชาวบ้านชุมชนท่าม่วง, กลุ่มสโมสรโรตารี่ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และกลุ่มการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ที่มีสมาชิกกว่า 400 ราย

เนื่องจากบริษัทฯ เป็นหนึ่งในลูกค้าของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bankนอกจากช่วยเหลือด้านแหล่งเงินทุนแล้ว ธนาคารยังมีเจตนารมณ์ตรงกันที่ต้องการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม Corporate Social Responsibility (CSR) ภายใต้โครงการ “SME D Partner by CSR”  ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับพัฒนา  ดังนั้น SME D Bank เข้ามาเป็นพันธมิตรสนับสนุนกิจกรรมของศูนย์ฯ หลากหลายรูปแบบ เช่น เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ทั้งผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จ หรือสามารถปรับตัวธุรกิจในช่วงโควิด-19 มาให้ความรู้ เล่าประสบการณ์การทำธุรกิจ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเตรียมตัวพร้อมสู่การเป็นผู้ประกอบการ   รวมถึง SME D Bank ได้ใช้สมรรถนะหลักขององค์กรด้านการเป็นผู้ประกอบการเข้ามาเสริมแกร่ง โดย       จัดกิจกรรมแนะแนวทางบริหารจัดการธุรกิจ การทำตลาดออนไลน์ นอกจากนั้น  แนะนำการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อพิเศษของธนาคาร เพื่อต่อยอดจากการฝึกอาชีพพัฒนาสู่ธุรกิจได้จริง

อีกทั้ง SME D Bank ยังจัดกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านชุมชนท่าม่วง มอบชุดถังแยกขยะ ผ่านกิจกรรม “รักษ์โลกด้วยใจ คัดแยกขยะ ก่อนทิ้งลงถัง” นำไปใช้ประโยชน์จัดการทิ้งขยะได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ที่สำคัญยังช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอย ซึ่งเป็นตัวการของปัญหามลพิษของสิ่งแวดล้อม และยังช่วยสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทาง จากการคัดแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อ หรือนำไปแปรรูปเป็นสินค้าอื่น ๆ ได้อีกด้วย

ภายในศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง ประกอบด้วย 7 โซน แบ่งเป็น โซนที่ 1 สะพานชา เชียงดา สมุนไพรทำชา เช่น ใบเชียงดาปลูกตามแนวสะพาน ที่จัดเก็บในช่วงเช้า เพื่อนำส่วนยอดของใบไปหั่นและตากแห้ง หลังจากนั้นนำไปบดหยาบ นำไปเป็นชาสมุนไพรที่มีสรรพคุณน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อให้ระดับน้ำตาลสมดุล ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยปรับระบบการทำงานของร่างกายให้สมดุล

โซนที่ 2 พืชสมุนไพร และสัตว์ปีก ไม่ว่าจะเป็น นก และไก่พันธุ์ต่าง ๆ ให้เลือกชม รวมถึงพืชสมุนไพรและกิ่งพันธุ์สมุนไพรชนิดต่าง ๆ พืชไม้มงคล ไว้ให้ผู้ที่สนใจเลือกซื้อนำไปปลูกไว้ที่บ้าน โซนที่ 3 โรงเรือนเพาะชำ บริเวณนี้จะมีโรงเรือนปลูกผักทั้งหมด 6 โรงเรือน ใช้ปลูกผักและสมุนไพร นำผลผลิตมาทำเป็นอาหารสำหรับผู้ที่เข้ามาชมสวน โซนที่ 4 โชว์รูมสินค้า ผลิตภัณฑ์สมุนไพร วางจำหน่ายในโชว์รูมสินค้ากว่า 300 รายการ ส่งตรงจากจังหวัดนครปฐม สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ในราคาย่อมเยา

โซนที่ 5 กาแฟในสวน ร้านกาแฟริมคลอง พร้อมชมวิวทิวทัศน์รู้สึกผ่อนคลายและดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่าง โซนที่ 6 สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วงและศูนย์เรียนรู้ของเรายังมีบริเวณบ้านพักทั้งหมด 6 หลัง เพื่อรองรับผู้ที่สนใจเข้ามาพักผ่อนในสวนสมุนไพร และโซนที่ 7 ห้องสัมมนาขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาเพื่อทำเป็นศูนย์อาชีพและทางด้านสมุนไพรรวมทั้งทางด้านพืชผักสมุนไพรไทยต่าง ๆ

อรประภา เผยถึงเป้าหมายในอนาคต ต้องการต่อยอด สร้างความเข็มแข็ง ขยายโครงการฝึกอาชีพให้กว้างขวางมากขึ้น โดยจะเป็นกลุ่มหรือคณะ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาและฝึกเป็นอาชีพ หรืออาจจะพัฒนาตัวเองเป็นวิทยากร เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปกระจายสู่ชุมชน หรือจังหวัดอื่น ๆ ต่อเนื่อง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์การเรียนรู้สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง
ที่อยู่ : 15/6 หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงชุม
อำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110
โทร :092-692-1850
เฟซบุ๊ก : สวนสมุนไพรชีววิถีท่าม่วง

Skip to content