fbpx

“Asterisk Espresso” ทายาทรุ่น 4 ต่อยอดตำนานกาแฟโบราณ   SME D Bank เติมทุนก้อนแรกแจ้งเกิดธุรกิจสู่สร้างอาณาจักรกาแฟครบวงจร   

 

เมล็ดกาแฟคั่ว  กาแฟนายหลา”  ที่ตั้งชื่อตามผู้บุกเบิก  ถูกสานต่ออาชีพจากรุ่นสู่รุ่น พัฒนายกระดับจากกาแฟโบราณสู่ผู้ประกอบธุรกิจกาแฟครบวงจร บริหารภายใต้ บริษัท ออสโมซิส คอฟฟี่ จำกัด มีทั้งโรงงานผลิตเมล็ดกาแฟ และร้านกาแฟ “Asterisk Espresso” ใน จ.ภูเก็ต อีกทั้ง ยกระดับเปิดหลักสูตรถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้สนใจเปิดร้านกาแฟ    โดยมีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เป็นแรงหนุนส่งเสริมด้านเงินทุนเพื่อสภาพคล่องกับการก้าวสู่มืออาชีพธุรกิจกาแฟตัวจริง 

กิตติภพ เอ่งฉ้วน” หรือ ฟิวเจอร์” ทายาทรุ่นหลาน เจนเนอเรชั่นที่ 4 ผู้พกพาความมุ่งมั่นเพื่อผลักดันธุรกิจของครอบครัวให้ก้าวสู่ความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้น 

เขา เล่าให้ฟังว่า ภาพที่เห็นตั้งแต่เด็ก คือ คุณตากำลังขมีขมันคั่วเมล็ดกาแฟอยู่ใต้ถุนบ้าน โดยอุปกรณ์มีเพียงกระทะใบเดียว กลิ่นกาแฟคั่วใหม่หอมกระจายไปรอบทิศ  ภาพความประทับใจนี้ สร้างความผูกพันให้สมาชิกทุกคนของครอบครัวรุ่นแล้วรุ่นเล่าเข้ามาคลุกคลี และช่วยกันสานต่อ  เฉกเช่นเดียวกับตัวเขาเองที่เป็นรุ่นหลาน หลังศึกษาจบก็มุ่งสู่บทบาทผู้สืบทอดกิจการ โดยแบ่งภาคการทำธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนชัดเจน คือ ฝ่ายผลิต และหน้าร้าน 

กาแฟนายหลา ที่เมื่อกว่า 60 ปีก่อนคือกาแฟโบราณรสเข้มข้นคั่วและชงขายอยู่ใต้ถุนบ้าน มายุคนี้ขยับสู่รูปแบบการผลิตจำหน่ายกาแฟสด โดยมีบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ออสโมซิส คอฟฟี่ จำกัด ซึ่งมีคุณฟิวเจอร์ เป็นหัวเรือใหญ่ พัฒนาโรงงานผลิตได้มาตรฐาน ควบคู่ไปกับการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้สนใจนำไปสร้างอาชีพ และไม่เพียงเท่านั้นยังเปิดหน้าร้านจำหน่ายกาแฟสดที่ให้รสแบบคอกาแฟต้องไม่พลาด ในชื่อร้าน “ Asterisk Espresso”

 “ธุรกิจของเราเป็นลักษณะกงสี ตั้งแต่รุ่นคุณตาที่เริ่มคั่วเมล็ดกาแฟผ่านกระทะ แล้วนำมาชงขาย ผมจำได้ตอนราคาถุงละ 7 บาท ต่อมาก็มีรูปแบบบรรจุขวดเพื่อให้ร้านอาหารรับไปจำหน่ายอีกต่อหนึ่ง กระทั่งขยับมาสู่รูปแบบอุตสาหกรรมมากขึ้น มีโรงคั่วได้มาตรฐาน GMP อยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งผมเริ่มดำเนินการเหมือนเป็นซัพพลายเออร์ นำกาแฟไปเสนอขายร้านต่างๆ ทำใบเสนอราคาเอง ติดต่อลูกค้าด้วยตัวเอง บวกทำตลาดออนไลน์ สินค้ากลายเป็นที่รู้จักกว้างขึ้น จึงมาถึงจุดที่ว่าต้องมีโชว์รูม เพื่อทดสอบกาแฟ และสร้างหน้าร้านบริการลูกค้า

จากฐานผลิต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเกิดไอเดียเปิดหน้าร้าน จังหวัดภูเก็ต คือทำเลหมายปอง เพราะประเมินมีฐานลูกค้ามีอยู่มากพอควร แต่สิ่งจะขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ฝั่งฝันได้ นั่นคือเงินทุน หากย้อนไป 4-5 ปีก่อน คุณฟิวเจอร์ยังเป็นคนหนุ่มไฟแรง ประสบการณ์การทำธุรกิจยังไม่มากนัก ยากที่สถาบันการเงินทั่วไปจะอนุมัติสินเชื่อ แต่ความมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความเติบโตเต็มเปี่ยม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เล็งเห็น จึงยื่นมือสนับสนุนวงเงินสินเชื่อก้อนแรก 5 แสนบาท กระทั่งต่อมาเพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อพัฒนาร้านสู่ความเติบโตต่อไป

ถ้าไม่ได้เงินก้อนนั้น แผนที่ตั้งไว้อาจไม่เป็นไปตามต้องการ เพราะเงินทุนสำคัญมาก โดยเฉพาะค่าอุปกรณ์ ซึ่งต่อมาได้ขอสินเชื่อเพิ่ม ทำให้ดำเนินธุรกิจง่ายขึ้น เป็นไปตามศักยภาพที่วาดหวังไว้ โดยจะแยกส่วนชัดเจน คือ วัตถุดิบ อยู่ภายใต้ชื่อออสโมซิส คอฟฟี่ ที่ต่อมาขยายงานด้านเทรนนิ่งให้กับผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้ ซึ่งเราไม่ได้สอนแค่ชงกาแฟ แต่เป็นการมอบองค์ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟ โดยนำประสบการณ์บริหารร้านกาแฟมาเป็นแนวทาง คอยชี้แนะเป็นที่ปรึกษา ออสโมซิส คอฟฟี่ จึงเปรียบเสมือนเพื่อนของลูกค้า

จากการผลิตในพื้นที่ใต้ถุนบ้าน  ปัจจุบัน กลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมมาตรฐาน มีหน้าร้านเป็นสัดส่วน จากกระทะใบเดียว ถุงชงกับกระบอกชงกาแฟโบราณ กลายเป็นเครื่องคั่วกาแฟ เครื่องชง อุปกรณ์ทันสมัย การจัดจ้างพนักงานที่ต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยส่งไปเรียนรู้และรวมถึงเข้าแข่งขันเพื่อการันตีคุณภาพของบาริสต้า ส่วนของบริการก็ต้องปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้    

ความสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญข้อหนึ่งของการทำธุรกิจร้าน Asterisk Espresso เปิดให้บริการทุกวัน  มีเวลาเปิดปิดชัดเจน จนลูกค้าจดจำได้ดี  มาพร้อมสินค้าและบริการคุณภาพ  แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19  ยังประคับประคองธุรกิจร้านกาแฟให้อยู่รอดมาได้ โดยเปลี่ยนรูปแบบร้าน ย้ายจุดบริการลูกค้ามายังโซนกลางแจ้ง โล่งสบาย อีกทั้ง ย้ายบาร์ชงเครื่องดื่มอยู่ด้านนอก นอกจากจะเหมาะสมกับสถานการณ์ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปกับมุมสวยๆ ในรูปแบบสวน ในสถานการณ์ดังกล่าว แม้ว่ารายได้ลดลง แต่ไม่ตกฮวบ  พนักงานทุกคนยังคงมาทำงาน และได้ค่าแรงเต็มจำนวน  

และหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ร้านกาแฟกลายเป็นธุรกิจหมายปอง ส่งแรงผลักให้เกิดผู้สนใจก้าวสู้เส้นทางสายนี้มากขึ้น บริษัทฯ  จึงเดินหน้าสร้างโอกาสให้ผู้สนใจรับความรู้การทำธุรกิจร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ ซึ่งมีผู้เข้ามาร่วมนับถึงวันนี้กว่า 100 รายแล้ว โดย 70 เปอร์เซ็นต์มาจากจังหวัดภูเก็ต 

แก่นของธุรกิจที่ผมวางไว้คือ ขายกาแฟ เป็น Special coffee ซึ่งระหว่างทางจะมีเสียงบอกเสียงถามตลอด ทำไมไม่ค่อยมีเมนูนอกเหนือจากกาแฟให้เลือก เค้กน้อยจัง แต่ผมมั่นใจในแก่นของผม เป็นการสร้างกลยุทธ์ในแบบของผม ซึ่งพอภาพในหัวชัดจน เราจะพุ่งเป้าแบบมีทิศทาง และในที่สุดลูกค้าจะจดจำว่า ถ้าต้องการดื่มกาแฟต้องมา Asterisk Espresso”    ทายาทธุรกิจ รุ่น 4 ทิ้งท้าย

ติดต่อได้ที่ 

“Asterisk Espresso”

อยู่ที่ 74/15-20 ถนนพูนผล ตำบลตลาดเหนือ

อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

Skip to content